ใครเคยสงสัยเรื่องตุ่มหนองที่เกิดขึ้นบริเวณท้องสุนัข อ่านบทความนี้เลยครับ
ขอแนะนำตัวเล็กน้อยนะครับ ผมชื่อ นายตันติกร รุ่งพัฒนะ การศึกษา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมกับโอ๊ต เป็นเพื่อนกันมานาน ผมจึงได้มีโอกาสในการให้คำปรึกษา และตอบปัญหาต่างๆ ของทางฟาร์ม All Best มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับทางสัตวแพทย์ คือเรื่องโรคต่างๆที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับสุนัขในทุกวัยของสายพันธุ์นี้
แต่ปัญหาที่เราพบบ่อยในปัจจุบัน คือสุนัขเด็กที่เพิ่งออกจากหน้าฟาร์มไปนั้นมักจะมีปัญหาภายหลังรับไปไม่กี่วัน เช่น ซึม, สุนัขท้องเสีย, เป็นหวัดมีน้ำมูก, มีตุ่มขึ้นที่ท้อง สีแดง&สีเหลือง, สุนัขตัวผู้ตรงปลายอวัยวะเพศมีของเหลวคล้ายหนองไหลออกมา,นอนกระตุก เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่มีการถามกลับมาที่ฟาร์มบ่อย เช่น สุนัขเป็นโรคหัด โรคพาโว หรือสุนัข เป็นเอดส์ หรือป่าวหมอจึงขออธิบายเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นไปทีละเรื่องนะครับ
และเนื่องจากข้อมูลมีมากจึงขอสรุปความเท่าที่มีเวลาก่อน แล้วจะมาอธิบายข้อมูลที่เหลือต่อและสำหรับเจ้าของท่านใดที่มีข้อสงสัยอื่นๆ ก็ถามเข้ามาได้ครับจะพยายามตอบทุกคำถามที่ตอบได้นะครับ
ในทางสัตวแพทย์เราจะเรียกตุ่มพวกนี้ว่า Impetigo ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นนอก (Superficial pyoderma)ไม่ได้ก่อความรุงแรงใดๆ ต่อร่างกายนอกจากจะพบอาการคันบริเวณผิวหนังตรงส่วนที่เป็นได้บ้างลักษณะที่เห็นจะเป็นตุ่มสีแดงบ้าง สีขาวหรือเหลืองบ้าง มักพบบริเวณท้อง ถ้าปล่อยไว้จะมีการสะสมของหนองทำให้ตุ่มนั้นใหญ่ขึ้น และแตกออกในที่สุด ส่วนที่แตกแล้วจะเป็นสะเก็ดสีเหลือง หรือน้ำตาลแห้งๆ
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือคล้ายกับสิวของคนนั้นเอง ไม่ใช่โรคเอดส์นะครับ
ซึ่งเกิดขึ้นได้จาก
เกิดจากความชื้นสิ่งสกปรก หรือบางทีสุนัขชอบนอนทับฉี่ตัวเอง หรือนอนทับน้ำขังที่สกปรก บางรายงานบอกถึงความเกี่ยวข้องกับการมีพยาธิ และการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงต้องดูประวัติเรื่องการถ่ายพยาธิ และอาหารที่น้องเค้าได้รับประกอบด้วยครับ (อันนี้ส่วนน้อยครับส่วนใหญ่จะเกิดจากสาเหตุแรกๆมากกว่า)
การดูแลเบื้องต้นที่เจ้าของทำได้เองคือ
– รักษาความสะอาดบริเวณที่น้องเค้าชอบอยู่ หรือนอนประจำ
– ทำความสะอาดบริเวณท้องของสุนัข โดยใช้น้ำเกลือล้างแผล หรือเบตาดีนเจือจาง
– ส่วนของแชมพูที่ใช้ฟอกทำความสะอาด ควรมีส่วนผสมของสารต้านเชื้อแบคทีเรีย เช่น Benzoyl peroxide ไม่เกิน 3%เพราะมีคุณสมบัติเป็น Antibacteria
และ Keratomodulatic agent จะช่วยกำจัดสะเก็ดแผลและฆ่าเชื้อไปในตัวคับ ให้ฟอก shampooทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที ในบริเวณที่เป็น ถ้าเป็นมากให้ฟอก
สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ร่วมกับการล้างแผล แล้วดูอาการ 1-2 อาทิตย์
ถ้าเจ้าของพบว่าทำตามวิธีนี้แล้วอาการไม่ดีขึ้นคือ ตุ่มไม่ลดลงมีผื่นแดงเพิ่มขึ้น, ขนร่วง, มีไข้ (มากกว่า 103.5 องศาฟาเรนไฮต์)ให้พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ได้ทันทีครับ
บทความแนะนำ